(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพถ่ายสะพานเจิ้นไห่สมัยราชวงศ์หมิงที่พังทลายลงมาในบริเวณพื้นที่คุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมระดับชาติ ในเขตถุนซี เมืองหวงซาน มณฑลอานฮุยทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2020)

หนานชาง, 24 ก.ค. (ซินหัว) — บนฝั่งทะเลสาบโผหยาง น้ำหลากไหลบ่าเข้ากลืนกินรั้วเหล็ก หน้าต่าง และประตูไม้ชั้นที่หนึ่งของด่านศุลกากรจิ่วเจียง สาขาย่อยกูถัง ซึ่งเป็นสำนักงานศุลกากรโบราณที่เพิ่งบรรจุในรายชื่อโบราณสถานคุ้มครองแห่งชาติเมื่อปีที่แล้ว

น้ำที่ท่วมมายังซัดเศษขยะ ขวดพลาสติก และกิ่งไม้ ขึ้นไปบนบันไดหน้าประตูที่นำไปสู่สวนด้านหลังของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเหลียนซีของเมืองจิ่วเจียง มณฑลเจียงซีทางตะวันออกของจีน

จีนย่างเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายนหวดกระหน่ำพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของจีน และน้ำของแม่น้ำหลายสายในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับเตือนภัย พื้นที่ทางตอนเหนือของมณฑลเจียงซีเผชิญฝนตกหนักหลายระลอกตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. พร้อมกับปริมาณน้ำในแม่น้ำและทะเลสาบท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

น้ำหลากไหลบ่าเข้าท่วมมรดกทางวัฒนธรรมจำนวนมาก

สำนักบริหารมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ (NCHA) เผยว่ามีมรดกทางวัฒนธรรมที่เคลื่อนที่ไม่ได้จำนวนกว่า 500 ชิ้นได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมทางตอนใต้ของจีนในช่วงที่ผ่านมา

(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพถ่ายหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมในเขตซานเจี่ยว อำเภอหย่งซิว มณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2020)

ซ่งซินเฉา รองผู้อำนวยการสำนักบริหารมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ กล่าวว่ามรดกทางวัฒนธรรมในแถบภูมิภาคที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแยงซีได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงที่สุด ทั้งสะพาน กำแพงเมือง และอาคารโบราณต่างๆ ถูกน้ำซัดท่วม

ซ่งกล่าวว่าทางสำนักบริหารได้จัดสรรเงินจำนวน 3.5 ล้านหยวน (ประมาณ 15 ล้านบาท) เป็นเงินทุนให้กับงานกู้ภัยมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชน ให้ความร่วมมือสนับสนุนงานดังกล่าว

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ระดับน้ำในทะเลสาบโผหยาง ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน สูงกว่าเครื่องหมายรับประกันที่ 22.43 เมตร ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อสถานที่ตั้งของด่านศุลกากรจิ่วเจียง สาขาย่อยกูถัง

“ในปีนี้น้ำท่วมรุนแรงมาก โดยเฉพาะที่ทะเลสาบโผหยาง” จูผิง ตัวแทนสำนักบริหารการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น กล่าว “ถ้าพื้นที่นั้นจมอยู่ใต้น้ำนานเกินไปจะเริ่มพังทลาย”

สถานที่ดังกล่าวอยู่ในตำบลกูถัง ห่างจากตัวเมืองจิ่วเจียงประมาณ 13 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเชิงเขาของภูเขากูถัง โดยมีทะเลสาบโผหยางอยู่ทางด้านตะวันออก

(แฟ้มภาพซินหัว : ยอดแหลมของศาลาโผล่ขึ้นมาเหนือแม่น้ำแยงซี บริเวณเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน วันที่ 11 ก.ค. 2020)

พื้นที่นี้ประกอบด้วยอาคาร 3 หลัง อันประกอบด้วยสำนักงานจัดเก็บภาษี สำนักงานบริหาร และอาคารหอพัก ทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ 2,028 ตารางเมตร ประวัติศาสตร์การจัดเก็บภาษีของที่แห่งนี้ย้อนกลับไปถึงปี 1723 และปิดตัวลงในปี 1931

สถานที่แห่งนี้เป็นสำนักงานศุลกากรทางประวัติศาสตร์แห่งเดียวในมณฑลเจียงซีที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จัดว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะเป็นอย่างมาก ในปี 1987 ถูกจัดเข้ารายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมระดับมณฑลที่อยู่ภายใต้การคุ้มครอง

“อาคารเหล่านี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากในเมือง” จูกล่าว “หลายคนเดินทางมาเก็บภาพ หรือชื่นชมกับความเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ของสถานที่”

อย่างไรก็ตาม น้ำหลากในปีนี้ไม่เพียงแต่กีดกันนักท่องเที่ยวออกไป หากยังแสดงท่าทีข่มขวัญว่าอาจกลืนกินสถานที่แห่งนี้ให้หายไปด้วย

“ในอดีต ถนนด้านหน้าประตูเหล็กสูง 2 เมตรสามารถรองรับรถ 2 คันให้ผ่านไปพร้อมกันได้” จูกล่าว “แต่ตอนนี้ถนนจมอยู่ในน้ำลึก”

ครั้งหนึ่งผู้พิทักษ์ในวัย 70 รายนี้เคยอยู่ประจำการเพื่อเฝ้าดูสถานที่ แต่ทางการก็ย้ายเขาเข้าไปในเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงอุทกภัย

(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธกำลังแบกกระสอบทรายไปยังเขื่อนในเขตโผหยาง ในมณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2020)

น้ำยังไหลท่วมทางเดินที่ยื่นเข้าไปในทะเลสาบ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปใกล้ริมน้ำได้ แต่จูเผยว่า “ทั้งถนนและทางเดินนั้นจมอยู่ใต้น้ำประมาณ 2-3 เมตร”

จูยังบอกเล่าสถานการณ์อันตรายที่สุดที่เกิดขึ้นในวันที่ 12 ก.ค. “วันนั้นน้ำโถมซัดเข้าไปที่หน้าต่างภายในลาน เกือบจะเข้าไปในห้องนิทรรศการแล้ว” พร้อมเสริมว่า “ตอนนี้อาคารบางส่วนจมอยู่ในน้ำมาครึ่งเดือนแล้ว”

ทุกวันนี้แม้กระทั่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำพื้นที่อย่างจูก็ยังต้องนั่งเรือเพื่อไปถึงสถานที่นั้น

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นวางแผนที่จะใช้เงินทุนเพิ่มเติมบูรณะซ่อมแซมส่วนที่พังเสียหาย “หลังจากน้ำลด เราจะขอให้หน่วยงานมืออาชีพมาประเมินความเสียหาย โดยเฉพาะความเสียหายของกำแพง” จูกล่าว

“เรากำลังคิดที่จะสร้างประตูขนาดใหญ่เพื่อป้องกันน้ำท่วม” เขากล่าว “เราไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์พังทลายกลายเป็นซากปรักหักพัง”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.