(แฟ้มภาพซินหัว : บุคลากรทางการแพทย์เตรียมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ในเมืองซาเลของโมร็อกโก วันที่ 10 ก.พ. 2021)

แคนเบอร์รา, 16 ก.พ. (ซินหัว) — วันอังคาร (16 ก.พ.) สำนักบริหารสินค้ารักษาโรค (TGA) ของออสเตรเลีย อนุมัติการใช้งานวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของแอสตราเซเนกา/มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กับประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ส่วนการฉีดให้ประชาชนอายุ 65 ปีขึ้นไป ให้พิจารณาเป็นรายบุคคล

วัคซีนของแอสตราเซเนกาถือเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตัวที่ 2 ที่สำนักฯ อนุมัติการใช้งานต่อจากวัคซีนของไฟเซอร์

สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาจะก่อให้เกิด “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ต่อการใช้ชีวิตของชาวออสเตรเลีย โดยคณะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้ประเมินอย่างละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจอนุมัติการใช้งานภายใต้หลักการความปลอดภัยคือความสำคัญสูงสุด

รัฐบาลออสเตรเลียจัดซื้อวัคซีนของแอสตราเซเนกา จำนวน 53.8 ล้านโดส โดยวัคซีน 50 ล้านโดสจะถูกผลิตในประเทศโดยซีเอสแอล (CSL) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของออสเตรเลีย ทว่ายังไม่มีการระบุกรอบเวลานำวัคซีนของแอสตราเซเนกามาฉีดให้ประชาชน แต่แนะนำประชาชนรับวัคซีนจำนวน 2 โดส ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์และไม่เกิน 12 สัปดาห์

รายงานเสริมว่าแม้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป “มีการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีหลังรับวัคซีน” แต่จำนวนผู้ป่วยกลุ่มอายุนี้ที่เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกเพื่อชี้วัดประสิทธิผลโดยรวมยังไม่เพียงพอ

“การตัดสินใจฉีดวัคซีนให้ผู้ป่วยสูงอายุควรพิจารณาเป็นรายบุคคล โดยอิงจากอายุ โรคร่วม สภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์ต่อการฉีดวัคซีน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น” สำนักฯ ระบุในแถลงการณ์ “ชาวออสเตรเลียเชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการพิจารณาทบทวนวัคซีนของสำนักฯ มีความเข้มงวดและมาตรฐานสูงสุด”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.