นิวเดลี, 22 พ.ค. (ซินหัว) — ยอดผู้เสียชีวิตจากไซโคลนอำพันในรัฐเบงกอลตะวันตก ทางตะวันออกของอินเดีย พุ่งขึ้นเป็น 80 รายในวันศุกร์ (22 พ.ค.) ขณะเดียวกันนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากทางอากาศ
“มีผู้เสียชีวิต 80 รายเพราะไซโคลนอำพัน เราได้อพยพประชาชนมากกว่า 600,000 คน ความเร็วและความหนาแน่นของไซโคลนเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นยิ่งกว่าภัยพิบัติระดับชาติ” มมตา พันรชี (Mamata Banerjee) มุขมนตรีรัฐเบงกอลตะวันตกให้สัมภาษณ์กับสื่อ โดยเธอให้ข้อมูลว่าไซโคลนอำพันมีรัศมี 450 กิโลเมตร
พันชรีเสริมว่า “ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต การจ่ายไฟฟ้าได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้แต่บ้านของฉันก็ไม่มีไฟฟ้าใช้ การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือก็ขัดข้องเช่นกัน แต่ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะดีขึ้น”
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระบุว่าโมดีได้เดินทางมาถึงสนามบิลโกลกาตา หลังออกเดินทางจากเดลีเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ (22 พ.ค.) เพื่อสำรวจรัฐเบงกอลตะวันตกและรัฐโอริสสาจากทางอากาศ และตรวจสอบความเสียหายจากพายุไซโคลนอำพันด้วยตนเอง
“โมดีจะสำรวจพื้นที่ทางอากาศและเข้าร่วมการประชุม ซึ่งจะหารือกันถึงวิธีการบรรเทาและฟื้นฟูความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้” สำนักนายกรัฐมนตรีออกแถลงการเมื่อคืนวันพฤหัสบดี ( 21 พ.ค.)
หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่รัฐเบงกอลตะวันตก โมดีจะขึ้นเครื่องบินต่อไปยังรัฐโอริสสาเพื่อสำรวจความเสียหายจากทางอากาศ
ไซโคลนอำพันได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างในรัฐโอริสสา ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางไฟฟ้าและโทรคมนาคมในหลายพื้นที่ทางชายฝั่ง
พายุไซโคลนอำพันทำให้เกิดกระแสลมแรงสูงสุดถึง 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และส่งผลให้มีฝนกระหน่ำรัฐเบงกอลตะวันตกและชายฝั่งรัฐโอริสสาเมื่อช่วงค่ำวันพุธ (20 พ.ค.) บ้านเรือนชั่วคราวของชาวบ้านราบเป็นหน้ากลอง รวมถึงทำให้เสาไฟฟ้าและต้นไม้ล้มระเนระนาด
(แฟ้มภาพซินหัว : ต้นไม้ล้มทับรถโดยสาร อันเป็นผลจากพายุไซโคลนอำพันในเมืองโกลกาตา ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2020)