
นิวยอร์ก, 10 พ.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.) หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสิ้นสุดลง ประชาชนจากภาคเอกชนบางส่วนในนครนิวยอร์กกังวลเกี่ยวกับอัตราการเกิดอาชญากรรมและโอกาสเกิดความไม่สงบที่เพิ่มขึ้น โดยพวกเขาได้ร้องขอความคุ้มครองส่วนบุคคลที่เรียกว่า ‘บอดี้การ์ด’
ดาวิด โยรีโอ (David Yorio) เจ้าของร่วมของซิตาเดล ซีเคียวริตี อเจนซี (Citadel Security Agency) กล่าวว่าบริษัทผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลของเขาได้รับคำร้องมากขึ้นจากผู้มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth Individuals – HNWI) และนักเดินทางท่องเที่ยวเพื่อทำธุรกิจ ที่เชื่อว่าตนอาจเผชิญความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

โยรีโอกล่าวว่าบริษัทได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่แจ้งว่าตนกำลังจะบินไปเข้าร่วมการประชุมที่นิวยอร์ก และอยากให้มีคนไปรับที่สนามบิน และคอยคุ้มกันทั้งขาไปและขากลับ บ่อยครั้งมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีคนที่เรียกใช้บริการความคุ้มครองในการทำกิจวัตรประจำวันด้วย “บางทีคำขอก็ง่ายมากเช่น ‘ผมต้องการคนคุ้มกันตอนไปซื้อของทั้งขาไปและขากลับ'”
รายงานระบุว่า “อัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูร้อน หลังนิวยอร์กผ่อนคลายข้อจำกัดการล็อกดาวน์ “แต่รายงานไม่ได้ระบุตัวเลขทางอุตสาหกรรม ที่ชี้ให้เห็นว่าผู้คนทั่วเมืองต้องการการคุ้มครองส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น

ข้อมูลของกรมตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ระบุว่าการฆาตกรรมในเมืองช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 และเหตุกราดยิงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่คดีลักทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 32
บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กยอมรับว่าอัตราการก่ออาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นถือเป็นปัญหาของเมือง แต่เขาชี้ให้เห็นถึงความคืบหน้าที่เกิดขึ้น เช่น การจับกุมผู้มีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนจำนวนมาก และสถิติฆาตกรรมโดยรวมในเดือนตุลาคมที่ลดลงเมื่อเทียบปีต่อปี
หน่วยงานการขนส่งในนิวยอร์กกล่าวว่ารถไฟใต้ดินยังเป็นสถานที่ปลอดภัย แม้ว่าเหตุอาชญากรรมใหญ่ๆ จะไม่ลดลงตามตัวเลขผู้โดยสารที่น้อยลงในช่วงเกิดการระบาดใหญ่ และในเดือนที่แล้ว กรมตำรวจนิวยอร์กก็ได้รับการเรียกร้องให้จัดสรรเจ้าหน้าที่ไปประจำการทั่วระบบรถไฟใต้ดินเพิ่มขึ้น