(แฟ้มภาพซินหัว : บริษัทตัวแทนจำหน่ายรถโฟล์กสวาเกนแห่งหนึ่งในกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี วันที่ 7 พ.ค. 2020)

เบอร์ลิน, 12 ก.พ (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.พ.) โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน และไมโครซอฟต์ (Microsoft) บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสหรัฐฯ ได้ประกาศจับมือกันเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ

แถลงการณ์ร่วมจากโฟล์กสวาเกนและไมโครซอฟต์ระบุว่า เป้าหมายของทั้งสองบริษัทคือการร่วมกันสร้างแพลตฟอร์มขับขี่อัตโนมัติ (ADP) บนระบบคลาวด์ เพื่อพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และฟังก์ชันการขับขี่อัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เดิร์ก ฮิลเกนเบิร์ก ผู้บริหารคาร์.ซอฟต์แวร์ ออร์แกไนเซชัน (Car.Software Organization) บริษัทซอต์ของแวร์โฟล์กสวาเกน กล่าวในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า “การผสานความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาวิธีขับขี่แบบเชื่อมโยงกันของเรา เข้ากับองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟต์ จะทำให้เราเร่งพัฒนาบริการการขับเคลื่อนที่สะดวกสบายและปลอดภัยได้”

โฟล์กสวาเกนและไมโครซอฟต์ได้ทำงานร่วมกันอยู่แล้วในระบบโฟล์กสวาเกน ออโตโมทีฟ คลาวด์ (VW.AC) ตั้งแต่ปี 2018 โดยคณะวิศวกรของระบบดังกล่าวในนครซีแอตเทิลของสหรัฐฯ ได้ทำแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างยานยนต์กับระบบคลาวด์ ผ่านบริการอาซัวร์ (Azure)

แถลงการณ์ข้างต้นระบุว่า การเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์จะทำให้โฟล์กสวาเกนสามารถอัปเดตและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของฮาร์ดแวร์ยานยนต์ในอนาคตได้อย่างอิสระ

โฟล์กสวาเกนมีแผนลงทุน 2.7 หมื่นล้านยูโร (ราว 9.79 แสนล้านบาท) ในการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลภายในปี 2025 และเพิ่มสัดส่วนของตนในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์รถยนต์จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 60

ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (10 ก.พ.) ที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมนีได้อนุมัติกฎหมายอนุญาตให้นำการขับขี่อัตโนมัติมาใช้งานในประเทศได้โดยจะอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด โดยกระทรวงคมนาคมเยอรมนีชี้ว่า เป้าหมายของเยอรมนีคือการอนุญาตให้ใช้งานการขับขี่อัตโนมัติบนถนนได้ภายในปี 2022

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.