ปักกิ่ง, 13 เม.ย. (ซินหัว) — วันจันทร์ (13 เม.ย.) จีนปฏิเสธคำครหาของสหรัฐฯ ที่ว่ามณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ได้กระทำการเลือกปฏิบัติต่อชาวแอฟริกันในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคระบาด พร้อมกันนั้น จีนยังระบุว่าสหรัฐฯ เป็นฝ่ายยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า ซึ่งไม่ใช่เพียงการกระทำที่ผิดศีลธรรมเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบอีกด้วย
จ้าวลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าว เมื่อถูกถามเกี่ยวกับคำกล่าวหาจากโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ โดยจ้าวกล่าวว่า จีนได้เรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯ มุ่งเน้นการดำเนินงานป้องกันและควบคุมการระบาดใหญ่ของตน เพราะความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งในความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างจีนกับแอฟริกาล้วนจะไม่ประสบผลสำเร็จ
“ระหว่างการต่อสู้กับโควิด-19 รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับชีวิตและสุขภาพของชาวต่างชาติในประเทศจีนอย่างยิ่ง ชาวต่างชาติทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เพราะเราปฏิเสธการเลือกปฏิบัติ” จ้าวกล่าว
จีนและแอฟริกาเป็นเพื่อนที่ดี พันธมิตรที่ดี และพี่น้องที่ดีเสมอมา จ้าวกล่าวพร้อมเสริมว่าประเทศต่างๆ ในแอฟริกาให้การสนับสนุนจีนในช่วงเวลาที่หนักหนาที่สุดที่จีนเผชิญกับโรคระบาด และในยามที่สถานการณ์โรคระบาดรุนแรงขึ้นในแอฟริกาเช่นนี้ รัฐบาลจีนและชาวจีนจึงไม่รีรอที่จะให้ความช่วยเหลือแก่แอฟริกา อันเป็นผลให้ได้รับเสียงชื่นชมยินดีจากประเทศและชาวแอฟริกาทั้งหลาย
“นโยบายที่เป็นมิตรของจีนต่อแอฟริกาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มิตรภาพของเรากับประเทศและผู้คนในแอฟริกาจะไม่มีทางสั่นคลอน และเราจะไม่เลือกปฏิบัติต่อพี่น้องชาวแอฟริกัน” โฆษกกล่าว
จ้าวยังกล่าวถึงกรณีนักเรียนชาวแอฟริกันที่มีมากกว่า 3,000 คนในมณฑลหูเป่ย ซึ่งมีเพียงคนเดียวที่ติดเชื้อเมื่อครั้งโรคโควิด-19 ระบาดรุนแรงที่สุด แต่นักเรียนคนดังกล่าวก็ได้รับการรักษาและหายโดยเร็ว ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ แข็งแรงดี
เจ้าหน้าที่ของมณฑลกว่างตงได้ทำการสอบสวนและดำเนินวิธีการใหม่ๆ เพื่อจัดการกับประเด็นที่บางประเทศในแอฟริกาเป็นกังวล จ้าวกล่าวพร้อมเสริมว่า เขาเชื่อว่าปัญหานี้จะได้รับการจัดการอย่างถูกต้องด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย
