วอชิงตัน, 10 ม.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศกำหนดบทลงโทษใหม่ๆ ต่ออิหร่าน หลังผ่านพ้นเหตุการณ์อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ ในอิรักมาหลายวัน

การเคลื่อนไหวล่าสุดรวมถึงการคว่ำบาตรการผลิตโลหะและภาคอื่นๆ ของเศรษฐกิจอิหร่าน สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าว ณ ทำเนียบขาว พร้อมระบุว่ากระทรวงฯ ได้คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่อาวุโสชาวอิหร่าน 8 คน รวมถึง อาลี ชัมคานี (Ali Shamkhani) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน โมฮัมหมัด เรซา แอชทิอานี (Mohammad Reza Ashtiani) รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่กองกำลังอิหร่าน และอื่น ๆ

ในวันเดียวกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่ามาตรการลงโทษครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตัดรายรับของอิหร่านที่ “อาจถูกนำไปใช้เพื่อเป็นเงินทุนและเงินอุดสนุนโครงการนิวเคลียร์ การพัฒนาขีปนาวุธ การก่อการร้าย เครือข่ายคอมพิวเตอร์ผู้ก่อการร้าย (terrorist proxy network) และการแผ่ขยายอิทธิพลชั่วร้ายในภูมิภาค”

หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (8 ม.ค.) ทรัมป์ได้กล่าวในนามประเทศว่า “สหรัฐฯ จะกำหนดบทลงโทษทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่ออิหร่านโดยเร็วที่สุด ซึ่งการคว่ำบาตรระดับรุนแรงเหล่านี้จะยังคงอยู่ต่อไปจนกว่าอิหร่านจะเปลี่ยนพฤติกรรม”

ข้อมูลจากเพนตากอน (กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) ระบุว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธ 16 ลูกเข้าโจมตีฐานทัพ 2 แห่งซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทหารของสหรัฐฯ และกองกำลังพันธมิตรตั้งอยู่ในอิรัก เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

กองกำลังปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านครั้งนี้ โดยกล่าวว่าพวกเขาตั้งใจจะตอบโต้การสังหารคาเซม โซเลมานี (Qassem Soleimani) ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ (Quds Force) ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.