(แฟ้มภาพซินหัว : รถเก็บเกี่ยวขับผ่านทุ่งข้าวสาลีในเมืองชิงโจว มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน วันที่ 7 มิ.ย. 2022)

ปักกิ่ง, 9 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (6 มี.ค.) หนังสือพิมพ์ไชน่า ไซเอนซ์ เดลี (China Science Daily) ของจีน รายงานว่าคณะนักวิจัยชาวจีนได้ค้นพบยีนที่สามารถเพิ่มการต้านทานต่อโรคใบด่างเหลืองในข้าวสาลี ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลให้ผลผลิตข้าวสาลีเสียหายอย่างมาก

โรคใบด่างเหลืองในข้าวสาลี ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในจีน เกิดจากเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดในดิน หรือที่รู้จักกันว่าไวรัสใบด่างเหลืองในข้าวสาลี (WYMV) โดยวิธีการป้องกันโรคดังกล่าวที่ดีที่สุด คือการปลูกข้าวสาลีสายพันธุ์ต้านทานโรค ฉะนั้นการค้นหาแหล่งยีนที่มีคุณสมบัติต้านไวรัสจึงมีความสำคัญยิ่ง

คณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์พืชไร่ สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์การเกษตรของจีน ใช้เทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม เพื่อสร้างวัสดุปรับแต่งข้าวสาลีโดยกำจัดยีนที่เป็นปัจจัยเริ่มต้นการแปรรหัสพันธุกรรมที่เรียกว่า TaelF4E และปลูกข้าวสาลีสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์แบบหนึ่งเท่า สองเท่า และสามเท่า

งานวิจัยพบว่าหลังการติดเชื้อโรคใบด่างเหลืองในข้าวสาลี มีเพียงสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์สามเท่าที่สามารถต้านทานไวรัสได้อย่างสมบูรณ์และติดเมล็ด (seed setting) ได้อย่างปกติโดยไม่ทำให้ผลผลิตลดลง ส่วนสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์หนึ่งเท่าและสองเท่าแสดงให้เห็นการเจริญโตที่แคระแกรนอย่างรุนแรงและมีอัตราการติดเมล็ดต่ำกว่า

งานวิจัยพิสูจน์ให้เห็นว่า TaelF4E เป็นยีนที่ไวต่อการติดเชื้อที่มีส่วนทำให้เกิดการติดเชื้อโรคใบด่างเหลืองในข้าวสาลี ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับแต่งจีโนมของยีนดังกล่าวในข้าวสาลีสายพันธุ์หลักสามารถเพิ่มการต้านทานต่อโรคใบด่างเหลืองในข้าวสาลีได้

อนึ่ง งานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสารแพลนต์ ไบโอเทคโนโลยี (Plant Biotechnology Journal)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.