(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนซื้อของที่ศูนย์การค้าปลอดภาษีนานาชาติไห่โข่ว ในนครไห่โข่ว มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีนวันที่ 11 ก.พ. 2024)

ปักกิ่ง, 3 มี.ค. (ซินหัว) — คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนดีดตัวขึ้นในปี 2023 หลังกลับมาเปิดประเทศในช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด-19 และคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (real GDP) จะเติบโตตามเป้าหมายของหน่วยงานภาครัฐที่ราวร้อยละ 5

กองทุนการเงินระหว่างประเทศออกแถลงการณ์ข้างต้นในการแถลงข่าวเมื่อไม่นานนี้ หลังจากมีการทบทวนเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน ภายใต้พันธะข้อ 4 (Article IV Consultation) แห่งข้อตกลงของกองทุนการเงินฯ ที่มีขึ้นประจำปี

แถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของกองทุนการเงินฯ ระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคของภาคเอกชน และได้รับการสนับสนุนจากนโยบายเศรษฐกิจมหภาค อาทิ การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มมากขึ้น การลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทและครัวเรือน และการใช้จ่ายทางการคลังเพื่อการบรรเทาภัยพิบัติ

แถลงการณ์ระบุว่าแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงในปี 2023 โดยมีสาเหตุหลักจากราคาพลังงานและอาหารที่ปรับตัวลดลง แต่คาดว่าจะค่อยๆ ขยับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.3 ในปี 2024 เนื่องจากช่องว่างการผลิต (output gap) ลดลง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงจากการเปรียบเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า (Base Effect)

แถลงการณ์ระบุด้วยว่าการดำเนินการนโยบายอย่างเด็ดขาด อันรวมถึงการเร่งปรับโครงสร้างภาคอสังหาริมทรัพย์ อาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและนำไปสู่การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนที่ดีกว่าที่คาดไว้

คณะทำงานของกองทุนการเงินฯ เดินทางเยือนจีนระหว่างวันที่ 26 ต.ค. – 7 พ.ย. ของปีที่ผ่านมา เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพันธะข้อ 4 ประจำปี 2023 โดยได้ปรึกษาหารืออย่างสร้างสรรค์กับเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลจีนและธนาคารประชาชนจีน (ธนาคารกลางของจีน) รวมถึงผู้แทนจากภาคเอกชนและนักวิชาการ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีน ตลอดจนความคืบหน้าและความท้าทายในการปฏิรูปเศรษฐกิจ และการรับมือเชิงนโยบาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.