เบอร์ลิน, 15 มี.ค. (ซินหัว) — โฟล์กสวาเกน กรุ๊ป (Volkswagen Group) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี เปิดเผยกำไรสุทธิในปี 2023 รวมอยู่ที่ 1.79 หมื่นล้านยูโร (ราว 6.96 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบปีต่อปี
ขณะเดียวกันโฟล์กสวาเกนทำรายได้ในปี 2023 รวมอยู่ที่ 3.22 แสนล้านยูโร (ราว 12.5 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 โดยแบรนด์ต่างๆ ทั้งปอร์เช ลัมโบร์กินี เบนท์ลีย์ และอาวดี ต่างบรรลุผลการดำเนินงานที่ดีในกลุ่มรถยนต์นั่งโดยสาร
โฟล์กสวาเกนส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกในปี 2023 รวม 9.247 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตร้อยละ 34.7 ของยานยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) โดยยานยนต์ไฟฟ้าล้วนครองส่วนแบ่งยอดจำหน่ายถึงร้อยละ 8.3 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.9 ในปีก่อนหน้า
จีนยังคงเป็นตลาดเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดของโฟล์กสวาเกนในปี 2023 ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 3.24 ล้านคัน ขณะยอดส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าล้วนในจีนอยู่ที่ 190,820 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบปีต่อปี
โฟล์กสวาเกนพยายามลดระยะเวลาการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ลงร้อยละ 30 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “ในจีนเพื่อจีน” (In China for China) เพื่อรักษาความเร็วเทียบเท่า “ไชน่า สปีด” (China speed) หรือความเร็วของจีน
นอกจากนั้นโฟล์กสวาเกนร่วมมือกับหุ้นส่วนที่เข้มแข็ง เช่น เสี่ยวเผิง (Xpeng) ธันเดอร์ซอฟต์ (Thundersoft) และฮอไรซอน โรโบติกส์ (Horizon Robotics) เพื่อเดินหน้าทำงานพัฒนายานยนต์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าชาวจีนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ โฟล์กสวาเกนตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้จากยอดจำหน่ายราวร้อยละ 5 ในปี 2024
