(แฟ้มภาพซินหัว : แรงงานทางการแพทย์ทำการทดสอบโรคโควิด-19 ในเมืองโจฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้ วันที่ 1 ก.พ. 2021)

โจฮันเนสเบิร์ก, 8 ก.พ. (ซินหัว) — เมื่อวันอาทิตย์ (7 ก.พ.) แอฟริกาใต้เปิดเผยการระงับใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ในประเทศจนกว่าจะมี “ข้อมูลประสิทธิผลทางคลินิก” ของวัคซีนต่อการป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ออกมาเพิ่มเติม

“เราระงับใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะเข้าใจประเด็นต่างๆ ทั้งหมดเพื่อกำหนดแผนงานถัดไป” ซเวลี ไมซ์ รัฐมนตรีกระทรวงการสาธารณสุขของแอฟริกาใต้ กล่าวระหว่างแถลงข่าวหลังจากผลการศึกษาฉบับหนึ่งระบุว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกามีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเผชิญเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการแพร่ระบาดระลอกสองในประเทศ

“ผลการศึกษาชี้ว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ได้ลดประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อระดับเล็กน้อยถึงปานกลางของวัคซีนลงอย่างมีนัยสำคัญ และเรายังไม่มั่นใจว่าวัคซีนจะมีผลกระทบต่อการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล การเจ็บป่วยขั้นรุนแรง และการเสียชีวิตอย่างไรบ้าง” ไมซ์กล่าว พร้อมเสริมว่าบรรดานักวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการเพื่อ “ค้นหาวิธีการที่เราจะสามารถใช้งานวัคซีนของแอสตราเซเนกาได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

อนึ่ง วัคซีนของแอสตราเซเนกา จำนวน 1 ล้านโดส ถูกขนส่งถึงแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 1 ก.พ. และจะหมดอายุในเดือนเมษายนนี้ โดยเดิมทีรัฐบาลวางแผนฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ภายในสัปดาห์นี้

คณะนักวิทยาศาสตร์กล่าวในงานแถลงข่าวว่าวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ โดยไมซ์ระบุว่าจะแจ้งความคืบหน้าของประเด็นนี้อีกครั้งเมื่อวัคซีนถูกขนส่งมาถึงแอฟริกาใต้ ขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนหลายรายและพิจารณาวัคซีนจากประเทศต่างๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.