โตเกียว, 26 ส.ค. (ซินหัว) — วันพฤหัสบดี (26 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ยืนยันการพบสารแปลกปลอมในวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานบางส่วน ของโมเดอร์นา และมีการระงับใช้วัคซีนข้างต้นที่มาจากสายการผลิตเดียวกันแล้วราว 1.63 ล้านโดส
กระทรวงฯ ระบุว่ามีการยืนยันพบสารแปลกปลอมตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. ที่จุดฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 8 แห่ง ในจังหวัดอิราบากิ ไซตามะ โตเกียว กิฟุ และไอจิ
บริษัททาเคดะ ฟาร์มาซูติคอล (Takeda Pharmaceutical) ผู้ผลิตยาของญี่ปุ่น ซึ่งรับผิดชอบการจำหน่ายและแจกจ่ายวัคซีนในประเทศ ระบุว่าบริษัทยังไม่ได้รับรายงานข้อกังวลด้านความปลอดภัย และได้รายงานเรื่องนี้ไปยังกระทรวงฯ เมื่อวันพุธ (25 ส.ค.)
สารแปลกปลอมที่พบในขวดบรรจุวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 39 ขวด คาดว่ามีขนาดเพียงไม่กี่มิลลิเมตร โดยโมเดอร์นากล่าวกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานปัญหาด้านความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพ และบริษัทกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบคอบและยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุได้ ณ ขณะนี้
กระทรวงฯ ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นาจำนวน 1.63 ล้านโดส ข้างต้น ถูกผลิตขึ้นในสายการผลิตเดียวกันและเวลาเดียวกันในสเปน ภายใต้หมายเลขชุด 3004667, 3004734 และ 3004956 ซึ่งถูกส่งให้กับจุดฉีดวัคซีน 863 แห่งทั่วญี่ปุ่น โดยกระทรวงฯ เชื่อว่าความเสี่ยงด้านความปลอดภัยนั้นมีไม่มาก แต่จะขอความร่วมมือจุดฉีดวัคซีนที่ได้รับวัคซีนชุดนี้ให้ระงับการใช้งาน
ญี่ปุ่นใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นาไปแล้วกว่า 10 ล้านโดส นับตั้งแต่วัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติใช้งานกรณีฉุกเฉินเมื่อเดือนพฤษภาคม และปัจจุบันกำหนดให้ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาได้ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงกับโมเดอร์นาเพื่อรับวัคซีน 50 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนกันยายน
ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ เปิดเผยหมายเลขชุดของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีการปนเปื้อนแก่สาธารณชน เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าตนได้รับวัคซีนที่อาจมีการปนเปื้อนหรือไม่ ก่อนที่จะมีการระงับวัคซีนชุดดังกล่าว
เพื่อรับมือกับปัญหาที่คล้ายคลึงที่อาจพบได้ในประเทศอื่น โมเดอร์นาระบุว่าได้ตรวจสอบและประเมินข้อกังวลเกี่ยวกับวัคซีนจากตลาดทั่วโลกอย่างเร่งด่วน และหน่วยงานท้องถิ่นสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลด้วยตนเองได้หลังจากการประเมินข้างต้น
ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ญี่ปุ่นพยายามควบคุมจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ซึ่งเพิ่มสู่ระดับสูงสุด โดยเมื่อวันพุธ (25 ส.ค.) รัฐบาลประกาศแผนบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 8 จังหวัด
ญี่ปุ่นกำลังดำเนินแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดสูง ส่งผลให้ผู้ป่วยรายวันมีจำนวนเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ