นิวยอร์ก, 2 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (28 ก.พ.) เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่าบ้านพักคนชราในสหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มาโดยตลอด เนื่องจากเชื้อไวรัสฯ เริ่มแพร่ระบาดในสถานที่เหล่านี้ก่อนมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในปี 2020 และยังคงพบการติดเชื้อและเสียชีวิตสูงขึ้นต่อเนื่องในปี 2021
รายงานข่าวอ้างอิงแผนกระตุ้นการจ้างพนักงานและการจัดการควบคุมบ้านพักคนชรา ซึ่งทำเนียบขาวประกาศเมื่อวันจันทร์ (28 ก.พ.) ระบุว่าผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่า 200,000 ราย เป็นผู้อาศัยและพนักงานในบ้านพักคนชรา ซึ่งเป็นผลจากการจัดการควบคุมที่ไม่เพียงพอ
โรคระบาดใหญ่ทำให้ปัญหาขาดแคลนพนักงานในระยะยาวของอุตสาหกรรมบ้านพักคนชราย่ำแย่ลง หลังจากพบว่าพนักงานลาออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสูงถึงราว 420,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ให้เหตุผลเรื่องค่าจ้างต่ำ
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนการกำหนดระดับจำนวนพนักงานขั้นต่ำ ปรับลดการใช้ห้องส่วนกลาง และปราบปรามบ้านพักคนชราที่ไร้ประสิทธิภาพที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อของบรรดาผู้อาศัย
นอกจากนั้นทำเนียบขาวจะเข้าตรวจสอบบทบาทของบริษัทเอกชนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยอ้างข้อมูลที่ว่าเจ้าของบริษัทเหล่านี้มีส่วนทำให้ผลกระทบย่ำแย่และค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
