ลอสแอนเจลิส, 25 พ.ย. (ซินหัว) — ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) เปิดเผยว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยมีผู้ใหญ่เพียงร้อยละ 14 ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เมื่อนับถึงวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่าโรคโควิด-19 ยังคงเป็นสาเหตุสำคัญของการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ส่วนวัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อทุกครั้ง แต่อาจลดความรุนแรงของโรคในผู้ที่ฉีดและยังป่วย ช่วยรักษาชีวิต ลดการเข้าโรงพยาบาลและพบแพทย์
ศูนย์ฯ เผยว่ามีผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องราวร้อยละ 14 เมื่อนับถึงวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะผู้ใหญ่วัยสูงอายุมากกว่าสองในสามไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่พวกเขาจำเป็นต้องฉีดเพื่อเพิ่มเกราะป้องกันโรค
นอกจากนั้นศูนย์ฯ เผยว่ามีความเหลื่อมล้ำทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยสัดส่วนของผู้ใหญ่ผิวดำที่ไม่ใช่ชาวฮิสแปนิกและผู้ใหญ่ชาวฮิสแปนิกที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ผิวขาว
ทั้งนี้ ศูนย์ฯ เสริมว่ามีปัจจัยทางสังคม ภูมิศาสตร์ การเมือง เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมมากมายที่สร้างความท้าทายแก่การเข้าถึงและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งมักส่งผลกระทบต่อกลุ่มเชื้อชาติและชาติพันธุ์ส่วนน้อยต่างๆ
