2 views

แคนเบอร์รา, 11 ม.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (9 ม.ค.) คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย มหาวิทยาลัยแคนเบอร์รา และมหาวิทยาลัยเซาธ์ออสเตรเลีย เผยแพร่ผลการศึกษาฉบับแรกของโลก ซึ่งวัดว่าสมองของมนุษย์จัดวางคนที่รักไว้ที่ศูนย์กลางของความสนใจอย่างไร ผ่านการสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างระบบพฤติกรรม (BAS) ของสมองกับความรัก

ทีมนักวิจัยได้สำรวจคนหนุ่มสาวที่บอกว่า “กำลังมีความรัก” จำนวน 1,556 คน โดยเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่มีต่อคนรัก พฤติกรรมรอบตัว และการจัดวางคนที่รักเหนือคนอื่นๆ เพื่อพยายามทำความเข้าใจกระบวนการของการตกหลุมรักได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งพบสมองของคนที่มีความรักมีปฏิกิริยาแตกต่างออกไปและจัดวางคนที่รักไว้ศูนย์กลางของความสนใจ

ฟิล คาวานาห์ ผู้มีส่วนร่วมในการศึกษานี้จากมหาวิทยาลัยแคนเบอร์ราและมหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลีย กล่าวว่าการค้นพบใหม่บ่งชี้ว่าความรักโรแมนติกเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและอารมณ์ โดยฮอร์โมนออกซิโตซิน (oxytocin) มีบทบาทในความรัก มันหมุนเวียนทั่วระบบประสาทและกระแสเลือดยามที่คนเราได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนที่รักชอบ

อย่างไรก็ดี คาวานาห์เผยว่าวิธีการที่สมองจัดวางให้คนที่เรารักมีความสำคัญพิเศษนั้นเกี่ยวพันกับการที่ฮอร์โมนออกซิโตซินผสมกับฮอร์โมนโดปามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่สมองปลดปล่อยระหว่างมีความรักโรแมนติก โดยความรักนั้นนำทางให้สมองเชื่อมโยงกับความรู้สึกเชิงบวกอย่างเป็นธรรมชาติ

ก่อนหน้านี้ฮอร์โมนออกซิโตซินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเคยถูกระบุให้เป็นฮอร์โมนที่สร้างความรู้สึกอิ่มเอมใจยามตกหลุมรัก

อดัม โบดี นักเขียนนำของการศึกษานี้จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่ามีสมมติฐานว่าความรักโรแมนติกเกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ 5 ล้านปีก่อน แต่เรากลับเข้าใจวิวัฒนาการของมันน้อยมาก ซึ่งทีมนักวิจัยจะเดินหน้าตรวจสอบความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิงในการมีความรัก และทำการสำรวจระดับโลกเพื่อบ่งชี้ประเภทต่างๆ ของการเป็นคู่รักโรแมนติก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.