(แฟ้มภาพซินหัว : นักท่องเที่ยวที่สวนเมอร์ไลออนของสิงคโปร์ วันที่ 21 ธ.ค. 2023)

สิงคโปร์, 29 ก.พ. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (28 ก.พ.) อินดรานี ราจาห์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ เปิดเผยต่อรัฐสภาว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นบ่งชี้อัตราการเจริญพันธุ์โดยรวมในสิงคโปร์ลดลงอยู่ที่ 0.97 ในปี 2023 ซึ่งลดลงจนต่ำกว่า 1.0 เป็นครั้งแรก

อินดรานี ซึ่งดูแลกองประชากรและผู้มีความสามารถแห่งชาติในสังกัดสำนักนายกฯ เผยว่าช่วงปี 2023 สิงคโปร์มีการแต่งงานของผู้มีถิ่นพำนักในท้องถิ่น 26,500 ครั้ง และการเกิดของผู้มีถิ่นพำนักในท้องถิ่น 30,500 คน พร้อมเสริมว่าชาวสิงคโปร์แต่งงานและมีลูกกันน้อยลงหากคิดเฉลี่ยรายปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีก่อนหน้า

อัตราการเจริญพันธุ์ที่ลดลงมีสาเหตุหลายประการ เช่น การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชะลอแผนการแต่งงานและมีลูกของคู่สามีภรรยาบางส่วน แรงกดดันทางการเงินในการเลี้ยงลูก ความกังวลเกี่ยวกับสมดุลชีวิต-การทำงาน และแนวคิดลำดับความสำคัญในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป

“คนรุ่นใหม่อาจมองว่าการแต่งงานหรือมีลูกไม่ใช่เป้าหมายสำคัญในชีวิต” อินดรานีกล่าว

ส่วนการเกิดที่ลดลงแสดงนัยยะน่าวิตกกังวลบางประการ ซึ่งรวมถึงการเป็นสังคมสูงวัยและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยพลเมืองอายุ 65 ปีขึ้นไป ครองสัดส่วนเกือบ 1 ใน 5 ของประชากรสิงคโปร์ เมื่อนับถึงกลางปี 2023

อินดรานีกล่าวว่าการเกิดที่ลดลงจะทำให้สิงคโปร์เผชิญกับปัญหาแรงงานหดตัว ซึ่งจะเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการรักษาพลวัต ดึงดูดธุรกิจระดับโลก และสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นถัดไป

รัฐบาลสิงคโปร์กำลังดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการมีลูก เช่น เพิ่มจำนวนวันลาคลอดและเลี้ยงดูบุตรแบบจ่ายค่าจ้างโดยรัฐบาลของผู้เป็นพ่ออีกเท่าตัว เพิ่มจำนวนวันลาเลี้ยงดูบุตรแบบไม่จ่ายค่าจ้าง และสนับสนุนข้าวของเครื่องใช้ในบ้านแก่ครอบครัวที่มีลูก

อินดรานีเสริมว่านโยบายเปิดรับชาวต่างชาติเข้าพำนักอาศัยในประเทศของสิงคโปร์ยังช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ โดยช่วงปี 2023 รัฐบาลสิงคโปร์ได้อนุมัติการเป็นพลเมืองใหม่ราว 23,500 คน และการพำนักอาศัยถาวรใหม่ 34,500 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.