(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนพักผ่อนหย่อนใจริมทะเลในกรุงสตอกโฮล์มของสวีเดน วันที่ 1 มิ.ย. 2021)

สตอกโฮล์ม, 12 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (11 มี.ค.) สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) เปิดเผยปริมาณการนำเข้าอาวุธในยุโรปเพิ่มขึ้นจากปี 2014-2018 ถึงร้อยละ 94 ในปี 2019-2023

รายงานจากสถาบันฯ กล่าวว่ายูเครนกลายเป็นผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดในยุโรป และนำเข้ามากเป็นอันดับที่ 4 ของโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีประเทศอย่างน้อย 30 แห่งจัดหาอาวุธให้ยูเครนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022

ปีเตอร์ เวซแมน นักวิจัยอาวุโสของโครงการส่งมอบอาวุธของสถาบันฯ ระบุว่ารายการคำสั่งซื้ออาวุธมูลค่าสูงจำนวนมากที่ยังรอส่งมอบ อาทิ เครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์รบเกือบ 800 ลำ ทำให้การนำเข้าอาวุธของยุโรปมีแนวโน้มคงอยู่ในระดับสูง โดยชี้ว่ายุโรปมีความต้องการระบบป้องกันทางอากาศเพิ่มมากขึ้นช่วงสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤตการณ์ในยูเครน

ขณะเดียวกัน รายงานของสถาบันฯ เผยว่าอาวุธราวร้อยละ 55 ที่นำเข้าโดยกลุ่มประเทศในยุโรประหว่างปี 2019-2023 นั้นมาจากสหรัฐฯ

แดน สมิธ ผู้อำนวยการสถาบันฯ ระบุว่ามีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลให้ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ในยุโรป ตัดสินใจนำเข้าอาวุธจากสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงเป้าหมายในการรักษาความสัมพันธ์ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งหากความสัมพันธ์นี้เปลี่ยนแปลงไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นโยบายการจัดซื้ออาวุธของประเทศยุโรปอาจปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน

อนึ่ง สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม ก่อตั้งเมื่อปี 1966 โดยมุ่งให้ข้อมูล การวิเคราะห์ และคำแนะนำเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทางการทหาร การค้าอาวุธ การลดอาวุธ การควบคุมอาวุธ และอื่นๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.