กรุงเทพฯ, 1 พ.ย. (ซินหัว) — เจ้าหน้าที่ทางการ ผู้ประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญของไทย แสดงทัศนะว่าการเดินทางเยือนไทยของหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน จะนำพาโอกาสแห่งการพัฒนามากมายมาสู่ประเทศ พร้อมกับเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน (ASEAN) อีกด้วย

หลี่มีกำหนดเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 22 (10+1), การประชุมสุดยอดอาเซียนจีนบวกสาม (10+3) และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 14 ณ กรุงเทพมหานคร

พินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ (TCCRC) และอดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการพัฒนาของจีนไม่เพียงแต่มอบประโยชน์แก่ประชาชนชาวจีนเท่านั้น แต่ยังขยับขยายประโยชน์มายังไทยและประเทศอาเซียนอื่นๆ อีกด้วย

“จีนเป็นผู้มีส่วนร่วมและผู้สร้างคุณประโยชน์ที่มีความสำคัญยิ่งต่อกิจการระดับภูมิภาคและระดับโลกมากมายในทุกวันนี้” พินิจให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว

“การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีนนั้นเกิดขึ้นมาช้านาน ความร่วมมือด้านอื่นๆ อีกหลายด้านก็กำลังมุ่งสู่ระดับสูงขึ้นอีก ผมเชื่อว่าการที่นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงมาเยือนไทยครั้งนี้จะสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ๆ สู่ความร่วมมือเชิงปฏิบัติการด้านต่างๆ ทั้งยังผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับสูงขึ้นอีกด้วย” พินิจกล่าว

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าขณะนี้จีนเป็นผู้เล่นแถวหน้าของวงการเทคโนโลยี โดยเป็นผู้นำโลกในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างอีคอมเมิร์ซและอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ วิชัย (Wichai Kinchong Choi) รองประธานอาวุโสของธนาคารกสิกรไทย ระบุว่าการมาเยือนของหลี่เค่อเฉียงเป็นการมาเยือนไทยครั้งที่ 2 ของนายกรัฐมนตรีจีนในรอบ 6 ปี ซึ่งมีนัยสำคัญต่อการกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระดับภูมิภาค และกระตุ้นความสัมพันธ์พหุภาคีในระบบเศรษฐกิจโลก

“การค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีนเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้มีบริษัทจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเข้าร่วมโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ อย่างทางรถไฟไทย-จีน” วิชัยกล่าว

“ระหว่างที่นายกฯ หลี่เค่อเฉียงเยือนไทย ผมเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยจะสามารถผลักดันการดำเนินโครงการทวิภาคีต่างๆ ตลอดจนประสานการทำงานร่วมกันระหว่างแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (BRI) และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ให้มากขึ้นได้” วิชัยเสริม

ฟู่เจิงโหย่ว ที่ปรึกษาอาวุโสของสถาบันขงจื่อแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าจีนและไทยมีความสัมพันธ์ที่ครอบคลุมหลายด้าน โดยในปี 2020 จีนและไทยจะร่วมเฉลิมฉลองวาระการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 45 ปี

“การมาเยือนไทยของหลี่เค่อเฉียงจะอำนวยความสะดวกแก่การกระชับความร่วมมือตามแผนริเริ่มฯ ระหว่างจีนและไทย ซึ่งเป็นการยกระดับความร่วมมือทวิภาคีสู่ขั้นสูงสุดครั้งใหม่” ฟู่กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.