ปักกิ่ง, 11 ต.ค. (ซินหัว) — เมื่อไม่นานนี้ หลี่หยาง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของจีนกล่าวว่า การพัฒนาการขนส่งอย่างยั่งยืนของจีนก้าวหน้าอย่างมั่นคงมานับตั้งแต่ปี 2012 และจวบจนถึงปัจจุบัน ภาคส่วนดังกล่าวได้เข้าสู่ระดับใหม่ของการพัฒนาคุณภาพสูง
จีนสร้างเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่มีความครอบคลุมมากที่สุดในโลก รวมถึงเครือข่ายทางด่วน เครือข่ายไปรษณีย์และการจัดส่งด่วน ตลอดจนกลุ่มท่าเรือระดับโลก โดยเครือข่ายการขนส่งของจีนครอบคลุมมากถึง 6 ล้านกิโลเมตรเมื่อสิ้นปี 2022
มีการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมใหม่ๆ หลายรายการ อาทิ ทางด่วนอัจฉริยะระหว่างเมืองเชื่อมต่อหางโจว เส้าซิง และหนิงโป ในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน นอกจากนี้ยังมีทางน้ำอัจฉริยะของคลองขุดต้าอวิ้นเหอหรือคลองใหญ่ (Grand Canal) ซงเชื่อมปักกิ่งและหางโจว ตลอดจนเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่จีนพัฒนาขึ้นเองรุ่นซี 919 (C919) ก็ได้มีการส่งมอบและเสร็จสิ้นภารกิจการบินเชิงพาณิชย์เที่ยวบินปฐมฤกษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังไม่รวมเทคโนโลยีโลจิสติกส์อัจฉริยะที่กำลังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมไปรษณีย์และการจัดส่งด่วน
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนยังยกระดับการขับขี่อัตโนมัติในประเทศ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการขนส่งที่ยั่งยืน
บรรดาเมืองใหญ่ต่างๆ อาทิ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และอู่ฮั่น ต่างนำร่องการใช้งานบริการการเดินทางด้วยรถยนต์ไร้คนขับ หลายท่าเรือ อาทิ ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ท่าเรือเทียนจิน และท่าเรือเซินเจิ้นหม่าวาน ได้นำรถบรรทุกอัจฉริยะและยานพาหนะขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ไร้คนขับมาใช้อย่างจริงจัง
ยกตัวอย่างเช่น เขตสาธิตการขับขี่อัตโนมัติอี้จวงในกรุงปักกิ่ง มีระยะทางขับขี่อัตโนมัติสะสมเกินกว่า 17 ล้านกิโลเมตรแล้ว โดยในจำนวนนี้เป็นการขับขี่อัตโนมัติเชิงพาณิชย์ประมาณ 9.6 ล้านกิโลเมตร และการขับขี่แบบไร้คนขับประมาณ 2.1 ล้านกิโลเมตร
จีนยังคงพยายามเสริมสร้างความร่วมมือด้านการขนส่งระดับโลกต่อไป โดยโครงการริเริ่มปักกิ่ง (The Beijing Initiative) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของจีนในการส่งเสริมแผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) และการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติปี 2030 นั้นก็ได้รับการสนับสนุนจาก 25 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ
(เรียบเรียงโดย Su Dan, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/336307.html)
