25 views

กรุงเทพฯ, 8 ก.ย. (ซินหัว) — เสียงเชียร์อันกึกก้องดังขึ้นทั่วสนาม ขณะนักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงคนหนึ่งบิดตัวอย่างงามสง่าเพื่อออกลีลาลูกยิง “จักรยานกลางอากาศ” ส่งลูกตะกร้อสีเหลืองพุ่งกลับฝั่งตรงข้าม คว้าคะแนนให้ฝั่งตัวเองเพิ่มหนึ่งคะแนน

เหตุการณ์ข้างต้นเป็นฉากหนึ่งของนักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทยที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันหางโจว เอเชียนเกมส์ (Hangzhou Asian Games) โดยทีมหญิงไทยตั้งตารอการแข่งขันซึ่งจะเริ่มในหางโจววันที่ 23 ก.ย. นี้ หลังจากทำผลงานน่าประทับใจในการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก คิงส์คัพ (King’s Cup Sepak Takraw World Championship) ในไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

คมกฤษ ทับแก้ว หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อหญิงทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัวอย่างมั่นใจว่าทีมหญิงไทยเริ่มเตรียมตัวสำหรับเอเชียนเกมส์ในเดือนมกราคม และมีสถิติการแข่งที่โดดเด่นทั้งในประเภทคู่และประเภททีม

คมกฤษ ระบุว่าทีมหญิงไทยจะพบคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามในหางโจว เอเชียนเกมส์ อาทิ จีน เกาหลีใต้ และเวียดนาม ซึ่งต่างฝึกฝนทักษะอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ผู้เล่นไทยได้เตรียมตัวมาอย่างดีและพร้อมแสดงฝีมือเช่นกัน พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของเอเชียนเกมส์ในฐานะการแข่งขันเซปักตะกร้อระดับสูงสุด

คมกฤษ กล่าวว่าเขาประทับใจกับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ กว่างโจวของจีน เมื่อปี 2010 หลังจากเข้าร่วมเอเชียนเกมส์รวมทั้งหมด 7 ครั้ง พร้อมเชื่อว่าเอเชียนเกมส์ หางโจว จะประสบความสำเร็จแบบเดียวกัน

พยอม ศรีหงษา สมาชิกทีมตะกร้อหญิงทีมชาติไทย ซึ่งมีประสบการณ์แข่งขัน 22 ปี และคว้าเหรียญทอง 2 สมัยในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 5 ครั้งที่ผ่านมา เผยความรู้สึกชื่นชอบสโลแกนทางการ “ใจถึงใจ @อนาคต” (Heart to Heart, @Future) ของการแข่งขันเอเชียนเกมส์ หางโจว

พยอม ระบุว่าสโลแกนนี้สะท้อนการสร้างมิตรภาพในหมู่นักกีฬาผ่านการเล่นกีฬา และทำให้กีฬาเป็นสะพานเชื่อมผู้คนใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น พร้อมเสริมว่าเธอมุ่งมั่นคว้าเหรียญทองเพิ่มสองเหรียญและปิดฉากอาชีพด้วยความสำเร็จ โดยการแข่งขันนี้จะเป็นเอเชียนเกมส์ครั้งสุดท้ายของเธอ

ปริมประภา แก้วคำไสย์ เพื่อนร่วมทีมวัย 26 ปีของพยอม กล่าวว่าเธอตื่นเต้นกับเอเชียนเกมส์ครั้งนี้เช่นกัน โดยทีมหญิงไทยเตรียมตัวเต็มที่สำหรับการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง

ปริมประภา ซึ่งเริ่มเล่นเซปักตะกร้อเมื่ออายุ 10 ขวบ เนื่องด้วยแรงบันดาลใจจากพี่สาว ผู้เป็นเพื่อนร่วมทีมชาติ และพ่อที่เป็นโค้ชทีมชาติ กล่าวว่าการแข่งขันเอเชียนเกมส์ หางโจว จะเป็นการแข่งขันครั้งแรกของเธอในจีน และทีมไทยจะพบคู่แข่งจากประเทศที่มีทักษะสูงขึ้น ซึ่งอาจสร้างความท้าทายได้

คมกฤษ กล่าวว่าเซปักตะกร้อเป็นกีฬาดั้งเดิมยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ไทยไม่ใช่แหล่งกำเนิดกีฬาชนิดนี้ แต่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเซปักตะกร้อให้เป็นกีฬาทางการ ซึ่งรวมถึงการฝึกฝนนักกีฬาจากประเทศอื่น

คมกฤษ กล่าวว่าบทบาทดังกล่าวเป็นวิธีเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างนานาประเทศ ซึ่งไม่เพียงขยายอิทธิพลของเซปักตะกร้อในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังทำให้การแข่งเซปักตะกร้อมีความหลากหลายด้วย พร้อมชี้ว่าจีนเป็นประเทศยิ่งใหญ่และมีความก้าวหน้าด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงด้านกีฬา โดยเขาหวังว่าการแข่งขันเอเชียนเกมส์ หางโจว จะช่วยขับเคลื่อนกีฬาเซปักตะกร้อให้เป็นที่ยอมรับระดับสากลและในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

(แฟ้มภาพซินหัว : ปริมประภา แก้วคำไสย์ นักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย ฝึกซ้อมในจังหวัดปทุมธานี วันที่ 25 ก.ค. 2023)
(แฟ้มภาพซินหัว : ปริมประภา แก้วคำไสย์ นักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย ถือลูกตะกร้อในจังหวัดปทุมธานี วันที่ 25 ก.ค. 2023)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.