(แฟ้มภาพซินหัว : ตำรวจสลายการจลาจลยืนเรียงแถวเพื่อสลายการชุมนุมนอกสถานีตำรวจเขต 5 เมืองมินนิแอโพลิสของสหรัฐฯ วันที่ 29 พ.ค. 2020)

วอชิงตัน, 21 เม.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (21 เม.ย.) กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ เริ่มการสืบสวนความผิดทางแพ่ง เพื่อตรวจสอบวิถีปฏิบัติของสำนักงานตำรวจเมืองมินนิแอโพลิส หลังจากเดเร็ก ชอวิน อดีตตำรวจมินนิแอโพลิส ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง

เมร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ แถลงข่าวว่าจุดมุ่งหมายของการสืบสวน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนทางอาญาของรัฐบาลกลาง คือการประเมินว่าสำนักงานตำรวจเมืองมินนิแอโพลิสมีแบบแผนหรือวิถีปฏิบัติที่ใช้กำลังเกินควรในเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงระหว่างการประท้วงหรือไม่

การสืบสวนนี้จัดเป็น “การสืบสวนแบบแผนหรือวิถีปฏิบัติ” ซึ่งกระทรวงฯ ระบุว่ามักดำเนินการเพื่อตรวจสอบว่า “สำนักงานตำรวจมีแบบแผนหรือวิถีปฏิบัติในการหยุด ตรวจค้น หรือจับกุม ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติเพิ่มเติมฉบับที่ 4 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ว่าด้วยการปกป้องสิทธิเสรีภาพของบุคคลหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าการใช้กำลังเกินกว่าเหตุและการทำหน้าที่ตำรวจแบบเลือกปฏิบัตินั้น เป็นการฝ่าฝืนสิทธิตามรัฐธรรมนูญของผู้ต้องสงสัยคดีอาญาหรือละเมิดสิทธิตามบทบัญญัติเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ หรือไม่”

“การสืบสวนจะประเมินว่าสำนักงานตำรวจเมืองมินนิแอโพลิสมีพฤติกรรมเลือกปฏิบัติและปฏิบัติต่อผู้พิการทางจิตโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่” การ์แลนด์กล่าว พร้อมเสริมว่าการสืบสวนจะ “ดำเนินการตรวจสอบสำนักงานตำรวจเมืองมินนิแอโพลิสอย่างครอบคลุม ทั้งด้านนโยบาย การฝึกอบรม การกำกับดูแล และการใช้กำลัง”

การ์แลนด์ระบุว่าหากกระทรวงฯ ได้ข้อสรุปว่า “มีสาเหตุเพียงพอให้เชื่อว่ามีแบบแผนหรือวิถีปฏิบัติในการทำหน้าที่ตำรวจโดยมิชอบ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือมิชอบด้วยกฎหมาย” กระทรวงฯ จะเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับข้อสรุปที่ได้เป็นสาธารณะ และสามารถยื่นฟ้องคดีทางแพ่งเพื่อขอให้ศาลรัฐบาลกลาง “ออกคำสั่งงดเว้นการกระทำที่กำหนดให้สำนักงานตำรวจมินนิแอโพลิสปรับเปลี่ยนนโยบายและวิถีปฏิบัติเพื่อมิให้ละเมิดกฎระเบียบเพิ่มเติม”

อัยการสูงสุดระบุว่ากระทรวงฯ “เริ่มติดต่อกลุ่มชุมชนและประชาชนทั่วไป เพื่อสอบถามประสบการณ์กับสำนักงานตำรวจมินนิแอโพลิส” ขณะที่พนักงานสอบสวนจะติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกอบรมและการสนับสนุนที่ได้รับจากสำนักงานตำรวจ

“ปัญหาความท้าทายนี้หยั่งรากลึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของเรา มันไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้หรือเมื่อปีก่อน การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างชุมชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องใช้เวลาและความพยายามของพวกเราทุกคน แต่เราดำเนินภารกิจนี้อย่างเร่งด่วนด้วยความมุ่งมั่นเต็มที่ เพราะเรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่รอไม่ได้อีกแล้ว” การ์แลนด์กล่าวทิ้งท้าย

การ์แลนด์ออกประกาศดังกล่าวหลังจากคณะลูกขุนตัดสินว่าชอวินมีความผิดจริงตามข้อหาทางคดีอาญาทั้งสาม ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยมิได้เตรียมการก่อน ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่นโดยประมาท หลังจากชอวินใช้หัวเข่ากดลำคอของฟลอยด์ ชายผิวดำ เป็นเวลา 9 นาที 29 วินาที จนเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020

ทั้งนี้ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชอวินอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยมิได้เตรียมการก่อน จำคุกสูงสุด 25 ปี ข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และจำคุกสูงสุด 10 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยประมาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.