(แฟ้มภาพซินหัว : ฝูงตั๊กแตนทะเลทรายบุกเข้ามายังเมืองมวิงกี ในเทศมณฑลคิทุย ประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2020)

ไนโรบี, 19 พ.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (18 พ.ค.) กระทรวงเกษตรของเคนยาได้ประกาศจะใช้โดรนและแอปพลิเคชันมือถือในเดือนกรกฎาคม เพื่อช่วยประเมินผลกระทบที่เกิดจากตั๊กแตนทะเลทราย

ปีเตอร์ มุนยา (Peter Munya) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ ประมง และสหกรณ์ ระบุว่าเทคโนโลยีดังกล่าวกลายมามีประโยชน์กับเคนยา เนื่องจากบางภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากตั๊กแตนนั้นเข้าถึงได้ยาก

“เราได้กำหนดให้มีการฝึกซ้อมการประเมินผลกระทบจากการบุกรุกบุกของฝูงตั๊กแตนทะเลทราย เพื่อระบุผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคการเกษตร เนื่องจากมีรายงานปัญหาเรื่องนี้ในเคนยาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว” มุนยากล่าวกับผู้สื่อข่าวในไนโรบี

งานสำรวจตั๊กแตนได้รับทุนจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และจะดำเนินการในเทศมณฑล 16 แห่งของเคนยา ที่เคยถูกทำลายอย่างร้ายแรงเพราะกองทัพตั๊กแตนทะเลทราย นอกจากนี้ สภากาชาดเคนยาจะเป็นผู้นำในการสำรวจ ซึ่งจะมีการส่งมอบรายงานให้กับรัฐบาลอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม

(แฟ้มภาพซินหัว : เกษตรกรที่พยายามไล่ตั๊กแตนทะเลทราย ในเมืองมวิงกี เทศมณฑลคิทุย ประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2020)

“การสำรวจจะกำหนดขอบเขตความเสียหายที่ตั๊กแตนสร้างต่อผลผลิต ทุ่งหญ้า สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ” มุนยากล่าว

เขาชี้ว่าสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 การบุกรุกโดยตั๊กแตนทะเลทราย และเหตุน้ำท่วมจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อชุมชนเกษตรกรรมทั้งในแง่ของความมั่นคงด้านอาหารและการดำรงชีวิต

โทเบียส ทาคาวาราชา (Tobias Takavarasha) ผู้แทนองค์การเอฟเอโอในเคนยากล่าวว่า การสำรวจจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นฟูสิ่งที่เกษตรกรสูญเสียไป

“การค้นพบนี้จะเป็นแนวทางและบอกให้เราทราบถึงความพร้อมของรัฐบาลในการรับมือเหตุการณ์ดังกล่าวในอนาคต” ทาคาวาราชากล่าวเสริม

เขากล่าวว่าหน่วยงานของสหประชาชาติได้เตรียมเครื่องมือไว้หลากหลาย เช่น แอปพลิเคชันมือถือ “eLocust3M” สำหรับช่วยให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามบันทึกตำแหน่งที่พวกเขาพบตั๊กแตน บอกความคืบหน้าของขั้นตอนที่พวกเขากำลังปฏิบัติการอยู่ และระบุว่าพื้นที่ใดบ้างที่อยู่ภายใต้การดำเนินงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.